SiHan - SiHan นิยาย SiHan : Dek-D.com - Writer

    SiHan

    อิสระ รั่ว เฮ้อ..... ฟิคเรื่องแรกของเราเลยอ่ะ เง้อ ยังไงก็ติชมกันหน่อยน้า..

    ผู้เข้าชมรวม

    3,463

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    3.46K

    ความคิดเห็น


    34

    คนติดตาม


    8
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ธ.ค. 50 / 16:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      SFll  The Rings  On Your Hand

      บางสิ่ง.....สิ่งที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ไม่แน่นะมันอาจจะนำมาซึ่งสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้
      +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      “ คุณยายฮะ แหวนสวยจังเลย ผมขอได้ม๊ายอ๊า~” เสียงเล็กใสกล่าวเจื้อยแจ้วพลางใช้นิ้วเล็กๆจิ้มไปที่แหวนวงงามที่ผู้เป็นยายสวมอยู่
      “ฮันอยากได้เหรอจ๊ะ....งั้นเอาไว้ให้หลานนิ้วใหญ่กว่านี้ก่อนนะจ๊ะ จะได้สวมแหวนได้ไงหล่ะ” พลางส่งยิ้มอบอุ่นให้เจ้าตัวน้อยที่โดดขึ้นมานั่งบนตัก แล้วหัวเราะชอบใจในคำตอบ
      “อ๊ะ!!!คุณยายฮะ” ฮันคยองส่งเสียงเรียกทันทีที่ผู้เป็นยายอยู่ๆก็หายไป แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆก็มีมือจากที่ไหนสักแห่งรวบเอวเค้าเอาไว้ พร้อมกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบาข้างๆหู
      “ใกล้แล้วสินะ....ใกล้เวลาที่ฉันจะได้เจอนายแล้ว”
      ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้น เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นประปรายบริเวณใบหน้าหวาน
      อีกแล้ว ได้ยินเสียงนั้นอีกแล้ว สัมผัสเย็นๆที่บริเวณใบหูมันคืออะไรกันนะ......
      พักหลังๆมานี่ เค้ามักจะฝันถึงเรื่องนี้ตลอด..เสียงของใครคนนั้น.......ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างนี้นะ
      ร่างบางสะบัดหน้า พลันเหลือบไปเห็นนาฬิกา
      “อ๊า.....ตายหล่ะหว่า 7โมงครึ่งแล้ว สายอีกแล้วสิเรา” ลุกลี้ลุกลนตะกายลงจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
      +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      “ฮัน....นายแต่งงานแล้วเหรอถึงได้สวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายหน่ะ” เพื่อนหน้าสวยเอ่ยพลางเกยคางเรียวพาดบนบ่าเพื่อนสนิท ส่วนมือก็คลึงแหวนที่นิ้วของฮันคยองเล่นอย่างสบายใจ
      “ป่าว.....ก็แค่ใส่นิ้วอื่นไม่ได้ เพราะมันใหญ่เกินไปก็แค่นั้น” พูดพลางบิดไหล่ให้พ้นจากคางเรียวของอีกฝ่ายที่ ชอบมาซบเค้าอยู่เรื่อยสิน่า ให้ตายเถอะ
      “โถ่...ฮันอ่ะ ซบนิดซบหน่อยทำเป็นหวงไปได้” อีกคนจิ๊ปากอย่างขัดใจ ใครๆก็อยากให้เค้าทำแบบนี้กับตัวเองทั้งนั้น ยกเว้นก็แต่ไอ้หมอนี่เท่านั้นแหละ
      “ไม่ชอบ” ตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความเลยทีเดียว คนสวยเบ้ปากอย่างล้อเลียน
      “เออ..ใช่ ฮันพรุ่งนี้วันเกิดนายแล้วนี่นะ” เสียงเพื่อนสนิทอีกคนตะโกนข้ามฝั่งมา  ทึกกี้นั่นเอง
      “อืม....”
      “แล้วนายจะไปฉลองที่ไหนอ่ะ”ถามต่อไปโดยไม่คิดที่จะเดินมาหา
      “ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นแหละ”พูดพลางกวาดของบนโต๊ะใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ทุกๆปีเค้าจะฉลองวันเกิดกับครอบครัวที่จีน แต่ตั้งแต่ที่ย้ายมาเรียนที่เกาหลี เค้ากลับไม่มีอารมณ์อยากที่จะฉลองวันเกิดเลย
      “แล้ววันเกิดปีนี้นายอยากได้อะไรหล่ะ” ร่างบางที่นั่งฟังเพื่อนๆสนทนากันมานานเอ่ยปากถาม
      “เอาเป็นเกมรุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะวางตลาดดีมั๊ย” ผลที่ออกมาคือ......
      “ไอ้ไก่!!!ฮันมันไม่ได้บ้าเกมแบบแกสักหน่อย”ฮีชอลตะโกนใส่หน้าคนที่เพื่อนๆต่างตั้งสมญานามว่า “ไก่”จนเจ้าตัวรีบเอามือปิดหูแทบไม่ทัน
      “อืม...ฉันว่าแหวนที่นายสวมอยู่มันก็ดูเก่าๆ แล้วนะ เอาเป็นแหวนวงใหม่สักวงเป็นไง”คนเสนอความคิดยิ้มจนแก้มบุ๋ม
      “ขอบใจนะ  แต่ฉันว่าพวกนายเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า” พลางมองแหวนที่นิ้ว
      แหวน....ที่คุณยายมอบให้ก่อนเสียชีวิต
      แหวน....ที่เมื่อเห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าอยากเป็นเจ้าของ ถึงได้ร่ำๆขอผู้เป็นยายอยู่ทุกวี่ทุกวัน ไม่รู้เพราะอะไร แต่พอได้มันมาก็ดั๊นสวมนิ้วอื่นไม่ได้ นอกจากนิ้วนางข้างซ้ายเท่านั้น
      “อืม...เอางี้มั๊ย เราไปฉลองบ้านฮีชอลกัน จะได้ไม่เสียเงินมากไง” ฮยอกแจเสนอความคิดที่แอบสนองความต้องการของตัวเองเล็กน้อย(?)
      “เฮ้ย  ได้ไงไอ้ไก่ ทำไมต้องเป็นบ้านฉันด้วย บ้านแกก็มีไม่ใช่เร๊อะ!!!”
      “อ้าว......ก็บ้านนายเป็นร้านอาหารนี่ ไปฉลองที่บ้านนายจะได้ประหยัดเงินด้วย  นายไม่สงสารฮันเหรอ เนอะ
      อีทึก” แอบส่งสายตาอ้อนๆให้เพื่อนรักอีกคน หวังว่าจะเห็นด้วยกับเค้า
      “อืม....ช่าย ถ้าไปเลี้ยงที่บ้านนาย พวกเราก็จะไม่ต้องเสียค่าอะไรเลยไง” พูดจบก็ยักคิ้วบางให้ ทำไมเค้าจะไม่รู้ว่าไอ้ไก่มันคิดอะไรอยู่
      “เออ!!ก็ได้วะ นี่ฉันเห็นแก่ไอ้ฮันมันนะโว้ย”ฮีชอลพูดอย่างอารมณ์เสีย พลางบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มกว้างของใครบางคน
      “เฮ้ย ฮันตกลงว่า?????” หายไปแล้ว ไปตั้งแต่ตอนไหนวะ
      “ก็เพราะนายนั่นแหละ มัวแต่แย้งอยู่ได้ ฮันมันก็เลยรำคาญหนีกลับบ้านไปแล้วเนี่ย” อีทึกบ่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย
      “ก็.......” เถียงไม่ออก พลางก้มหน้าอย่างสำนึกผิด ฮันคยองก็น่าจะรู้นี่นาว่าเค้าก็เป็นคนแบบนี้แหละ ปากไม่ค่อยดีเท่าไร
      “เอาเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ตอนนี้บ้านใครบ้านมัน”อึนฮยอกพูดตัดบทเพื่อนทั้งสองที่ยืนทำหน้ากินกันไม่ลงอยู่พลางตบบ่าฮีชอลเบาๆ(เพื่อ?)


      +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      “ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วซินะที่ฉันจะได้เจอกับนายสักที” สัมผัสอ่อนโยนบริเวณแก้มเนียนบวกกับเสียงของใครบางคนที่คุ้นหูดังมาจากหัวเตียงที่ร่างบางกำลังหลับใหลอยู่ภายใต้ความมืดแห่งรัตติกาล
      ในตอนเย็นขณะเพื่อนๆ ที่แสนดีกำลังถกเถียงในเรื่องวันเกิดของเค้าอยู่ ฮันคยองกลับเลือกที่จะเดินออกมาจากห้องเรียนอย่างเงียบๆ
      “เฮ๊อะ...จะเถียงกันให้ได้อะไร วันเกิดพวกนายรึก็ป่าว” ร่างโปร่งบ่นอย่างเซ็งๆ

      กว่าจะถึงห้องพักตัวเองก็ปาเข้าไป  2 ทุ่มกว่า ก็เพราะมัวแต่เดินเล่นจนเพลินหน่ะสิ รู้สึกตัวอีกทีท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทไปซะแล้ว
      ทำไมวันนี้ถึงได้ง่วงนอนเร็วขนาดนี้นะ  ร่างบางสะบัดหน้าไล่ความง่วงงุนที่โถมเข้ามาทีละนิด ๆจนในที่สุดก็ทนไม่ไหว จำต้องปลีกตัวจากหนังสือเรียนที่อ่านไปไม่ถึง 3 หน้า มาล้มตัวนอนบนเตียงนุ่มอย่างช่วยไม่ได้
      ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไรแล้วที่ผล็อยหลับไป จนกระทั่ง........
      “อื้อ..”ร่างบางขยับเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆที่ริมฝีปาก แต่ก็ยังไม่มีทีถ้าว่าจะตื่นง่ายๆ
      อืม....สัมผัสถึงเนื้อนุ่มที่ถูกส่งมาในโพรงปาก เรียวลิ้นของใครบางคนที่กำลังกวาดต้อนเก็บความหอมหวานจากเจ้าของลิ้นเล็กที่มีแต่จะถอยหนี จนทนนอนต่อไปไม่ไหว
      หายใจไม่ออก.....ในที่สุดก็จำต้องลืมตาขึ้นมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง
      “อื้อ....” ครางประท้วงพลางทุบกำปั้นเล็กๆไปที่แผงอกแกร่งของใครอีกคนที่กำลังลักหลับเค้าอยู่ ตาเรียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ
      “ฮื้ย!!!!นายเป็นใครหน่ะ  เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” หลังจากเป็นอิสระแล้ว รีบเขยิบตัวหนีให้ห่างจากชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งอยู่บนเตียง พร้อมกับยิงคำถามไปอย่างกลัวๆ
      “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิฮัน....ทำยังกะเห็นผีงั้นแหละ” นึกขันในท่าทางของร่างบางที่ออกอาการสั่นเทิ้มอย่างปิดไม่อยู่ ใบหน้าหวานแดงซ่านไปจนถึงใบหู
      น่ารักชะมัด!!!
      “ฉะ..ฉันถาม วะ..ว่า นายเป็นใคร รู้จักชื่อฉันได้ยังไง” ถามออกไปอีกครั้งทั้งๆ ที่พยายามที่จะปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ แต่คำพูดที่ออกมากลับสั่นไปกว่าเดิมซะอีก
      “ฉัน ชเว ชีวอน เป็นคู่หมั้นของนายไงหล่ะ...ฮันคยอง” ร่างสูงหัวเราะชอบใจเมื่อได้เห็นสีหน้าตื่นๆของอีกฝ่ายที่เมื่อได้ฟังคำตอบแล้วถึงกับตาโต น่ารักเกินไปแล้วนะ
      “นาย...พูดบ้าๆ ใครเป็นคู่หมั้นนายกันห๊า!!”แล้วทำไมต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ด้วยหล่ะ ฮันคยองเอ๊ย...
      “ก็.....นายไง” ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พอให้อีกฝ่ายได้สัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ เคลียอยู่ข้างแก้ม
      “ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย” ตะคอกกลับอย่างนักเลง
      “แล้วไง...” ถามกลับจนร่างโปร่งอยากจะประเคนฝ่าเท้าไปที่หน้าหล่อๆสักหนึ่งที
      “อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ  นายเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” ตะคอกถามอีกฝ่ายที่นั่งทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร
      “อืม...จิงด้วยสินะ เมื่อกี๊นี้ ฉันก็เล่นลิ้นกับนายไปทีนึงแล้วนี่นา” ไม่ตอบแถมยังเป่าลมเบาๆลงไปที่ข้างหู แกล้งอีกฝ่ายให้อายเล่น
      ฮันคยองแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด หลังได้รับคำตอบที่เรียกสีที่หน้าให้แดงขึ้นไปอีก ปากพร่อยจิงๆ ให้ตายเถอะ ดั๊นไปพูดให้เข้าทางร่างสูงจนได้
      “ นะ...นาย”
      “บอกให้ก็ได้....ฉันมาจากที่นี่ยังไงหล่ะ” ชีวอนพูดพลางดึงมือของฮันคยองมาประทับจุมพิตลงที่หลังมือนุ่ม......ตรงแหวนวงนั้น
      “นี่!! อย่าพูดบ้าๆน่า  ฉันไม่ใช่เด็กอมมือนะที่จะได้เชื่อนิทานหลอกเด็กของนายหน่ะ” พร้อมชักมือออก จะให้เชื่อได้ยังไงหล่ะ ฮึ ออกมาจากแหวนงั้นเร๊อะ  บ้ากันไปใหญ่แล้ว
      "ก็แล้วแต่นายจะคิด” ร่างสูงล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มอย่างสบายอารมณ์ ผิดกับอีกคนที่ถอยกรูดจนติดผนังห้อง
      “นี่พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้านะ...มานอนได้แล้ว”พร้อมตบเตียงปุๆ แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา
      “นี่....จะให้ฉันไปอุ้มนายมานอนเหรอจะมานอนดีๆ ฮันนี่”พลางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
      “อย่ามาเรียกฉันอย่างนี้นะ!!” ฮันคยองตะโกนอย่างเหลืออด
      “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายต้องการอะไร....แต่ถ้านายไม่ออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้  ฉันจะแจ้งตำรวจ”ตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะกดเบอร์ปลายทางลงไป
      “โธ่...ฮัน นี่นาย....ก็ได้ถ้านายไม่เชื่อฉันนะ อืม....เอาเป็นว่าฟังนะ ฮัน ฉันสามารถเล่าเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับนายตั้งแต่นายยังเด็กๆได้ทุกอย่างเลยหล่ะ อย่าง.... ตอนนายอายุ 8 ขวบ นายไปเที่ยวสวนสนุกกับคุณยาย นายตกม้าหมุนด้วยใช่ม๊า...ใช่หัวโนเท่าลูกมะกอกเลยด้วย อ้อ..มีอีกเรื่องตอนที่นายปีนขึ้นไปช่วยลูกแมวบนต้นไม้ เพราะกลัวมันจะตกลงมา แต่นายกลับตกต้นไม้เสียเอง แขนหักก็เลยต้องเข้าเฝือกไปเป็นเดือน อืม....เอาเรื่องนี้ดีกว่าเรื่องนั้นมันเก่าไปหน่อย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนายลื่นล้มในห้องน้ำ ก้นจ้ำบ๊ะกับพื้น ระบมไปหลายวันเลยทีเดียว แล้วเมื่อคืนก่อนนายก็เดินสะดุดขาตัวเองตอนลงมากินน้ำ แล้วก็มีอีกนะที่นาย....”ร่างสูงพร่ำถึงวีรกรรมของอีกคนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนร่างบางต้องเบรกไว้ก่อนที่จะโดนเผาจนเกรียม
      “พอแล้ว!!!”ตะโกนสั่งพร้อมกับซุกหน้าลงกับมือนุ่ม หน้าแดงก่ำ หมอนี่รู้ได้ยังไงกัน นี่เค้าไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะ
      “นายเป็นพวกถ้ำมองรึไงกัน”ถามเสียงอู้อี้ เพราะมือที่ยังปิดหน้าอยู่ทำให้คำพูดที่ส่งออกไปฟังดูไม่ค่อยเป็นภาษาเท่าใดนัก
      “ก็บอกแล้วไง ฉันรู้เรื่องของนายทุกเรื่อง เพราะฉันเฝ้ามองนายอยู่ตลอดเวลา”พูดกับร่างเล็กด้วยความเอ็นดู พร้อมขยับตัวเข้าไปหาจนประชิดตัว
      “อ๊ะ....อย่าเข้ามาน๊า.....”ร่างบางเตรียมขยับถอยหนีอีกครั้ง แต่......ติดผนังห้อง
      ชีวอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้หมายจะประทับริมฝีปากบนกลีบปากนุ่มอีกครั้ง แต่ก็โดนมือเล็กยันเอาไว้ สัมผัสเปียกชื้นบริเวณฝ่ามือทำให้ฮันคยองชักมือกลับ.....ไอ้หมอนี่เลียมือเค้า
      นี่!!นาย....อี๋..สกปรกชะมัด” พลางเช็ดมือตัวเองเข้ากับชายเสื้อของคนตัวโต
      “ก็นายไม่ใช้ฉันจูบอ่ะ” พูดอย่างเจ้าเล่ห์
      “นายนี่มัน.....เฮ้อ จะให้ฉันเชื่อเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ได้ไงกัน อะไรก็ไม่รู้  ตัวอย่างนายเนี่ยนะจะออกมาจากแหวนได้”ฮันคยองบ่นกระปอดกระแปด
      “ ก็ใช่ มันอาจจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อสักหน่อย แต่มันก็เป็นเรื่องจริงนะ......นายไม่สังเกตความผิดปกติของสีที่แหวนของนายบ้างเลยเหรอ”
      “อ๊ะ...แหวน”อุทานด้วยความประหลาดใจที่แหวนหยกสีเขียวมรกตที่ตนสวมอยู่นั้นจู่ๆก็เปลี่ยนสีมาเป็นสีขาวเกลี้ยงมน แต่ที่ยิ่งเพิ่มความประหลาดใจให้ร่างบางเข้าไปอีก เมื่ออีกฝ่ายยื่นแหวนลักษณะเดียวกันกับเค้ามาตรงหน้า
      “ฉันก็มีเหมือนกันนะฮัน  เห็นมั๊ยเหมือนกันเปี๊ยบเลย”ร่างสูงยิ้มจนตาปิดพลางเขยิบมานั่งใกล้ๆคนที่ทำหน้าอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก ถือโอกาสวาดแขนโอบเอวบางไว้หลวมๆในขณะที่อีกคนไม่ทันระวังตัว
      “ฮึ๊ย ปล่อยนะโว้ย”พยายามขืนตัวออกจากวงแขนแกร่ง แต่ไม่เป็นผล ดูเหมือนว่าแรงจะสู้ไอ้คนฉวยโอกาสที่นั่งทำหน้าแป้นแล้นอยู่ไม่ได้เลย ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยอย่างช่วยไม่ได้
      “ทำไมแหวนถึงได้เปลี่ยนเป็นสีนี้หล่ะ” ถามออกไปอย่างต้องการคำตอบอย่างที่สุด
      “ก็เพราะนายกับฉันได้เจอกันแล้วยังไงหล่ะ คนที่มีแหวนวงนี้ได้ ก็ต่อเมื่อเป็นเนื้อคู่กันเท่านั้นนะฮัน ก็เหมือนคุณยายกับคุณตาของนายนั่นไง” ร่างสูงอธิบาย แต่ดูเหมือนว่าร่างในอ้อมกอดจะไม่เข้าใจ ก็นั่งทำหน้าเอ๋อซะขนาดนั้น
      “หมายความว่าไงอ่ะ” นั้นปะไร  เดาไว้ไม่มีผิด ฮันนี่เอ๋อได้ตลอดเวลาสิน่า
      “ก็คือ ยายกับตาของนายอ่ะ ก็เหมือนเราสองคนไงเข้าใจไหม แล้วพอตานายแต่งงานกะยายของนายแล้ว แหวนที่ตานายสวมอยู่ก็มาอยู่ที่ฉัน แล้วแหวนยายของนายก็มาอยู่ที่นายอ่ะ เราก็เลยได้เจอกันไง”หวังว่าคราวนี้คงจะเข้าใจบ้างหล่ะนะฮัน
      “แล้วที่แหวนเปลี่ยนสีหล่ะ”
      “ที่แหวนเปลี่ยนสี นั่นก็เพราะว่าเราได้เจอกันแล้วไงหล่ะ แหวนนี่ มันก็ทำหน้าที่เหมือนสื่อกลางระหว่างนายกับฉันนั่นแหละ พอเราได้เจอกัน มันก็เหมือนหน้าที่ของมันได้หมดลงแล้ว ประมาณนั้น” พูดพลางแสดงสีหน้าวิชาการสุดๆ
      “แล้วทำไมนายเห็นฉันแค่ฝ่ายเดียวหล่ะ” พูดอย่างงอนๆ
      “ใครว่า นายก็เคยเห็นฉันนะฮัน แต่นายอาจคิดว่ามันเป็นแค่ความฝันก็ได้”ร่างบางพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ เชิงว่าเข้าใจแล้ว
      “มีอะไรจะถามอีกมั๊ย เจ้าหนูจะไม”พูดหยอกอีกฝ่ายให้สีขึ้นหน้า
      “อ๊ะ” พลางจับแก้มตัวเอง ถลึงตามองอีกฝ่ายที่ขโมยหอมแก้มเค้าไปสดๆร้อนๆแต่หน้านี่แดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
      “ไอ้คนฉวยโอกาส  ตายซะเถอะแก”กระโจนขึ้นคร่อมร่างสูงที่ล้มลงบนตียงเพราะแรงผลัก มือเล็กจัดการจับศีรษะของชีวอนโขกกับเตียงนุ่ม (แล้ววอนมันนะเจ็บมั๊ยหล่ะฮัน -_-*)
      “ฮัน  พอได้แล้ว”ตะโกนบอกอีกฝ่ายที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกปทุษร้ายร่างกายเค้าง่ายๆ
      “ไม่มีทาง  ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หื่น ไอ้ อ๊ะ....”ล้มกลิ้งไม่เป็นท่าเมื่ออีกฝ่ายพลิกตัวกลับในทันทีพร้อมพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางจนไม่สามารถขยับหนีได้เลย
      “หึๆ ฮันฉันว่านายน่าจะสนุกพอแล้วนะ ทีนี้ก็ถึงตาฉันบ้างหล่ะนะ”ยิ้มเจ้าเล่ห์ชนิดที่อีกฝ่ายเสียวสันหลังขึ้นมาดื้อๆ
      “นายจะทำอะไร” ถามออกไปทั้งที่ไม่อยากได้คำตอบเลยสักนิด
      “ก็........”ยิ้มจนแก้มปริ พลางปรายตามองร่างข้างใต้ตั้งแต่หน้าเลื้อยไปหยุดที่ส่วนสำคัญของร่างกาย
      “เฮ้ย....อย่าบอกว่า  ม๊ายยยยยยยยยยยยยยน๊าาาาาาาาาาาาาาาา”
      .
      .
      .
      .

      “ เฮ้ยฮัน  ไปทำไรมาวะ  ทำไมถึงเดินกระเผลกมาอย่างงั้นหล่ะ”
      “ไปอดนอนที่ไหนมาวะ ขอบตางี้คล้ำเหมือนสัตว์ประจำประเทศนายเลยว่ะ ฮาๆๆๆ” ยัง พวกมันยังไม่เลิก หายเมื่อไรพ่อจะเตะจับเรียงตัวเลยคอยดู
      “เอาหล่ะนักเรียนเงียบๆ กันหน่อย วันนี้จะมีเพื่อนใหม่มาเรียนกับเราคนนึงนะ เอาหล่ะจ้ะ ชีวอนเข้ามาได้แล้ว”
      อะ....อะไรนะ ชีวอนเหรอ นี่ผมฟังไม่ผิดใช่มั๊ยคับ เด็กใหม่ที่ว่าชื่อชีวอน
      “แนะนำตัวกับเพื่อนๆหน่อยสิจ้ะ” อาจารย์ประจำชั้นเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กใหม่ยังยืนเก้ๆกังๆอยู่ แต่ใครจะรู้ว่ามีใครบางคนอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็นหน้าชั้นเรียน.....ไอ้หื่น!!!!!
      “เอ่อ....สวัสดีคับทุกคน ผมชื่อชเว ชีวอนคับ ยินดีที่ได้รู้จะ....”ชะงักกึกเมื่อเหลือบไปเห็นฮันคยองที่โดนโอบคอโดยเพื่อนคนสวยอยู่ อาการวิ้งๆๆเกิดขึ้นทันที แทบอยากจะถลาเข้าไปแยกออกจากกันในทันที หวงคับ คนนี้ผมหวง....หวงมากๆด้วย
      “เอ่อ....คุณคนนั้นอ่ะคับ...คุณที่กอดคอฮันคยองแฟนผมอยู่อ่ะคับกรุณาปล่อยมือด่วน” คำพูดที่เหมือนกึ่งตะโกนมากกว่าถูกส่งออกไปจนร่างบางหยุดการกระทำที่ดูเหมือนจะแทะโลมอยู่หน่อยๆแทบจะทันที พลางช้อนตามองร่างสูงที่เดินกึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าโดยไม่สนใจสายตานับสิบคู่ที่มองมา
      “อะไรของนาย”พูดออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน อยู่ๆก็มาตะโกนสั่งเค้า ขอบอกไม่ปลื้ม ซินไม่ปลื้มเข้าใจ๊
      “อ๊ะ.....ฮัน”ร้องออกไปเมื่ออีกฝ่ายลุกพรวดขึ้นมา
      ท่ามกลางความตกตะลึงทั่วห้องเรียน มันช่างกล้าที่จะพูด!!!!!!!
      “ชีวอน มานี่เลย”พูดพร้อมกับกึ่งดึงกึ่งลากร่างสูงให้ออกมาพ้นจากอาณาเขตห้องอย่างรวดเร็วเท่าที่เค้าจะทำได้ท่ามกลางเสียงผิวปากของเพื่อนๆในห้อง หาที่ลับตาคนสั่งสอนไอ้คนปากหมานี่สักหน่อย ที่เดียวในตอนนี้ก็คือ.....ห้องเก็บอุปกรณ์......
      “อ๊ะ...อะไรเล่าฮัน มาหยิกแขนฉันทำไมอ่ะ ฉันเจ็บนะ”พลางเป่าลมจนแก้มป่อง น่ารักตายหล่ะ!!!
      “นายพูดแบบนั้นได้ยังไงกัน ไม่อายคนอื่นเค้าบ้างรึไง”ร่างบางตะโกนกลับอย่างเหลืออด หน้าแดงกล่ำไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธกันแน่
      “แหม...ฮันก็  ก็หมอนั่นมันมากอดฮันของฉันทำไมอ่ะ   นายหน่ะต้องให้ฉันกอดได้คนเดียว เข้าใจมั๊ย” พลางซุกหน้าเข้ากับซอกขอขาวสูดดมกลิ่นหอมไว้เสียเต็มปอด
      “อ๊ะ....นายจะทำอะไรหน่ะ นี่มันโรงเรียนนะ”พลางผลักไหล่อีกฝ่ายออก
      “งั้นนายก็บอกมาก่อน ว่านายจะไม่ให้ใครกอดนอกจากฉันคนเดียว” หยิบยื่นข้อเสนอที่มีแต่ได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว
      “แต่ถ้านายไม่ตอบหรือปฏิเสธ ฉันจะจับนายกดตรงนี้แหละ ฉันพูดจิงๆนะเอ้า...” พลางปลดกระดุมเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดกดจูบลงไปที่แผ่นอกบาง
      .....ไอ้...อืม”
      “ตกลงมั๊ย ตอบช้ากว่านี้ บอกไว้เลยว่านายไม่ได้เข้าเรียนแน่”
      “อือ....อืม...ฉะ...ฉันยอมแล้ว” ร่างบางรีบรับปากก่อนที่ร่างสูงจะทำอะไรไปมากกว่านี้ ใบหน้าแดงกล่ำด้วยความอาย เกิดมันจับเค้ากดจิงจะทำไงหล่ะ
      “งั้นก็ดี เรากลับเข้าห้องกันดีกว่า”พลางกลัดกระดุมให้ร่างบาง แต่ก็ยังไม่วายขโมยหอมแก้มคนน่ารักอีกฟอด
      ฮึ้ย...........ไม่สามารถทำอะไรร่างสูงได้เลย ได้แต่ปล่อยให้ชีวอนถูไถใบหน้าเข้ากับไหล่บางอย่างไม่มีทางเลือก
      มื่อไม่สามารถทำอะไรร่างสูงได้เลย ได้แต่ปล่อยให้จูงมือแกว่งไปมา ดูมันจะลั่นล้ามากเกินไปหน่อยมั้งชีวอน
      “ชิ” ฮันคยองสบถเบาๆ กับอาการดีใจที่ออกนอกหน้านอกตาของร่างสูง เหลือบมองด้วยหางตา
      ..........แต่ดูๆไปหมอนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ
      อ่า....นี่เค้าคิดอะไรออกไปเนี่ย....
      ....เขินจัง

      END…………………………


      โฮกกกก....แทบตาย ชอบไม่ชอบกันไง เม้นต์บอกกันหน่อยนะ จะได้แก้ไขอ่ะ 
      โค้งงามๆ 38 ที........

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×